พระประวัติ ของ ฮิโระ ซางะ

ภาพงานมงคลสมรสของเจ้าชายผู่เจี๋ยและฮิโระ ซางะ ในปี ค.ศ. 1938

ตระกูลซางะอยู่ในชั้นคุเงะสายโอริมาจิ ซันโจ ซึ่งเป็นสายตระกูลฟูจิวาระทางเหนือ ฮิโระเกิดในปี พ.ศ. 2457โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบุตรีคนแรกของขุนนางซาเนโตะ ซางะ เมื่อเธอเติบโตขึ้น จึงได้เข้าศึกษาในโรงเรียนกากูชูอิง ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีล้วน

ในปี พ.ศ. 2480 เธอได้รู้จักกับเจ้าชายผู่เจี๋ย พระอนุชาในจักรพรรดิผู่อี๋แห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนการทหารญี่ปุ่น และได้มีการจัดเตรียมพิธีดูตัว โดยพระองค์ได้เลือกรูปภาพของเธอจากรูปสตรีหลายใบที่เสนอโดยกองทัพคันโตของญี่ปุ่น การสมรสครั้งนี้เป็นไปด้วยเหตุผลทางการเมืองเพื่อสานสัมพันธไมตรีอันเหนียวแน่นระหว่าง 2 ชนชาติคือชาวญี่ปุ่นและชาวแมนจู

พระราชพิธีหมั้นได้จัดขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตแมนจูกัวประจำกรุงโตเกียวในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ตามมาด้วยการอภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการที่ห้องโถงที่ตั้งกองทัพหลวงญี่ปุ่นที่คุดันซางะ ในกรุงโตเกียววันที่ 3 เมษายน ปีเดียวกัน ทั้งคู่ได้ย้ายไปที่เมืองฉางชุน เมืองหลวงของแมนจูกัว ทั้งคู่ให้กำเนิดพระธิดา 2 พระองค์ ทำให้ชีวิตการสมรสเริ่มมีความสุข

ระหว่างการอพยพของแมนจูเรียจากการโจมตีของสหภาพโซเวียต เจ้าหญิงฮิโระต้องแยกจากเจ้าชายผู่เจี๋ย ขณะที่เจ้าชายผู่เจี๋ยต้องติดตามจักรพรรดิผู่อี๋พระเชษฐาเสด็จลี้ภัยทางเครื่องบิน เจ้าหญิงฮิโระและเจ้าหญิงหยุนเฉิงพระธิดาได้ถูกส่งไปเกาหลีโดยทางรถไฟพร้อมกับสมเด็จพระจักรพรรดินีวั่นหรง รถไฟพระที่นั่งได้ถูกควบคุมโดยกองทัพพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ตาลิทโจว แมนจูกัวในเดือนมกราคม พ.ศ. 2489 ในเดือนเมษายนทั้งหมดทรงถูกคุมขังไว้ที่คุกเมืองฉางชุน จนได้รับการปล่อยตัวและถูกคุมขังอีกครั้งที่คุกมณฑลจี๋หลิน เมื่อกองทัพพรรคก๊กมินตั๋งได้ทิ้งระเบิดมณฑลจี๋หลิน ทั้งหมดจึงถูกย้ายไปคุมขังที่คุกเมืองหยานจี เจ้าหญิงฮิโระและพระธิดาได้ถูกย้ายไปคุมขังที่คุกเมืองเซี่ยงไฮ้ และได้รับการส่งกลับไปยังญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2504 หลังจากพระสวามีทรงพ้นโทษ ทั้งคู่ได้รับการยินยอมให้ประทับอยู่ร่วมกันที่เมืองปักกิ่งโดยโจว เอินไหล ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ไม่เคยห่างกัน โดยใช้ชีวิตแบบสามัญชน จนกระทั่ง พ.ศ. 2530 เจ้าหญิงฮิโระ ซางะสิ้นพระชนม์ สิริพระชนมายุ 73 พรรษา

อ้ายซินเจว๋หลัว ผู่เจี๋ยและเจ้าหญิงฮิโระ ซางะเสด็จเยือนพระราชวังต้องห้าม ในบั้นปลายพระชนม์ชีพ ในฐานะสามัญชน